เพิ่มความเร็วเว็บ WordPress

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว WordPress! เคยรู้สึกหงุดหงิดบ้างไหมเวลาที่เว็บโหลดช้าจนแทบอยากจะทุบคีย์บอร์ด เราเข้าใจคุณดีครับ 😅 วันนี้เราเลยจะมาแชร์ 10 เทคนิคเด็ดๆ ที่จะช่วยให้เว็บ WordPress ของคุณบินได้เร็วปานสายฟ้าแลบ! แถมยังทำตามได้ง่ายๆ แม้คุณจะไม่ใช่เด็กไอทีก็ตาม

ทำไมความเร็วถึงสำคัญนักหนา?

ก่อนจะเข้าเรื่อง มาดูกันก่อนว่าทำไมความเร็วถึงสำคัญขนาดที่ต้องเขียนบทความยาวๆ แบบนี้

  1. ผู้เยี่ยมชมรักความเร็ว: คนส่วนใหญ่จะออกจากเว็บถ้าโหลดนานเกิน 3 วินาที (จริงๆ นะ!)
  2. Google ก็รักความเร็ว: เว็บเร็ว = อันดับใน Google ดีขึ้น
  3. ยอดขายพุ่ง: เว็บเร็ว = คนอยู่นานขึ้น = โอกาสขายของได้มากขึ้น

เอาล่ะ ทีนี้มาดูกันเลยว่าจะทำยังไงให้เว็บของเราเร็วขึ้นได้บ้าง!

1. ใช้ WordPress Hosting ที่แรงพอ

เริ่มจากรากฐานที่ดีกันก่อน นั่นก็คือ Hosting ที่เหมาะสม (เดี๋ยวนะ ฟังดูคุ้นๆ… 🤔)

ถ้าคุณเคยอ่าน บทความก่อนหน้าของเรา คุณจะรู้ว่าการเลือก WordPress Hosting ที่ดีนั้นสำคัญแค่ไหน มันเหมือนกับการเลือกบ้านที่แข็งแรงให้เว็บของคุณอยู่นั่นเอง

ทำไมถึงสำคัญ? เพราะ WordPress Hosting ที่ดีจะมาพร้อมกับ

  • เซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งมาเพื่อ WordPress โดยเฉพาะ
  • การตั้งค่า caching ที่เหมาะสม
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ

วิธีทำ ลองพิจารณาย้ายไปใช้ WordPress Hosting ที่มีคุณภาพ หากคุณยังใช้ shared hosting ทั่วไปอยู่

2. ติดตั้งปลั๊กอินแคชชิ่ง (เพราะความทรงจำที่ดีทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น)

ปลั๊กอินแคชชิ่งเปรียบเสมือนความทรงจำอันแสนวิเศษของเว็บไซต์คุณ แทนที่จะต้องสร้างหน้าเว็บใหม่ทุกครั้งที่มีคนเข้าชม มันจะจำหน้าเว็บไว้และส่งให้ผู้เข้าชมโดยไม่ต้องโหลดใหม่ทั้งหมด

ทำไมถึงสำคัญ? ลดภาระการทำงานของเซิร์ฟเวอร์และทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้นมาก

วิธีทำ

  1. ติดตั้งปลั๊กอินแคชชิ่งยอดนิยม เช่น WP Rocket, W3 Total Cache หรือ WP Super Cache
  2. เปิดใช้งานและตั้งค่าตามคำแนะนำของปลั๊กอิน
  3. ทดสอบความเร็วเว็บไซต์ก่อนและหลังใช้งาน (รับรองว่าจะต้องอึ้ง!)

3. ใช้ CDN (เพราะระยะทางไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป)

CDN (Content Delivery Network) คือเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ช่วยส่งข้อมูลเว็บไซต์ของคุณจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ผู้เข้าชมมากที่สุด

ทำไมถึงสำคัญ? ลดระยะทางในการส่งข้อมูล ทำให้เว็บโหลดเร็วขึ้นสำหรับผู้เข้าชมจากทั่วโลก

วิธีทำ

  1. สมัครใช้บริการ CDN เช่น Cloudflare (มีแพ็กเกจฟรี!) หรือ StackPath
  2. ตั้งค่า CDN ให้ทำงานร่วมกับเว็บ WordPress ของคุณ (หลายปลั๊กอินแคชชิ่งมีตัวเลือกนี้ในตัว)
  3. เปิดใช้งานและทดสอบ

ProTips: อ่านบทความเกี่ยวกับ CDN อย่างละเอียด

4. ปรับขนาดและบีบอัดรูปภาพ (เพราะภาพสวยไม่จำเป็นต้องหนัก)

รูปภาพมักเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เว็บโหลดช้า แต่เราก็ไม่อยากเอารูปออกใช่ไหมล่ะ? วิธีแก้คือการปรับขนาดและบีบอัดรูปภาพให้มีขนาดเล็กลงโดยไม่เสียคุณภาพมากนัก

ทำไมถึงสำคัญ? ลดขนาดไฟล์รูปภาพ = ลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ

วิธีทำ

  1. ใช้ปลั๊กอินอย่าง Smush หรือ ShortPixel เพื่อบีบอัดรูปภาพอัตโนมัติ
  2. ปรับขนาดรูปภาพให้พอดีกับพื้นที่ที่จะแสดงบนเว็บไซต์ (ไม่ต้องอัพโหลดรูป 4K ถ้าแสดงแค่ 800px)
  3. ใช้ฟอร์แมตรูปภาพที่เหมาะสม เช่น JPEG สำหรับภาพถ่าย, PNG สำหรับภาพที่ต้องการความโปร่งใส

5. ลดจำนวนปลั๊กอินที่ไม่จำเป็น (น้อยแต่มาก ดีกว่าเยอะแต่ช้า)

ปลั๊กอินเปรียบเสมือนของเล่นชิ้นใหม่ เราอยากได้ทุกอัน แต่บางทีก็ไม่ได้เล่นสักเท่าไหร่ ปลั๊กอินก็เช่นกัน ยิ่งมีเยอะ ยิ่งทำให้เว็บช้าลง

ทำไมถึงสำคัญ? ปลั๊กอินแต่ละตัวเพิ่มภาระให้เซิร์ฟเวอร์ และอาจทำให้เว็บโหลดช้าลง

วิธีทำ

  1. สำรวจปลั๊กอินที่ติดตั้งอยู่
  2. ถามตัวเองว่า “ฉันยังใช้มันอยู่จริงๆ หรือเปล่า?”
  3. ลบปลั๊กอินที่ไม่จำเป็นออก
  4. หาปลั๊กอินที่ทำงานได้หลายอย่างในตัวเดียว แทนการใช้หลายปลั๊กอินที่ทำงานแยกกัน

6. อัปเดต WordPress, ธีม และปลั๊กอินอยู่เสมอ (อัปเดตเป็นประจำ ชีวิตดี๊ดี)

การอัปเดตไม่ได้มีไว้แค่แก้บั๊กหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย

ทำไมถึงสำคัญ? เวอร์ชันใหม่มักมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเร็ว

วิธีทำ

  1. เปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับ WordPress core
  2. ตั้งเตือนให้ตรวจสอบการอัปเดตของธีมและปลั๊กอินเป็นประจำ
  3. ทดสอบการอัปเดตบนเว็บทดสอบก่อนอัปเดตบนเว็บจริงเสมอ

7. ใช้ธีมที่เบาและเร็ว (เพราะความเรียบง่ายคือความงาม)

ธีมที่สวยอลังการอาจทำให้เว็บดูน่าทึ่ง แต่ก็อาจทำให้เว็บช้าลงได้เช่นกัน การเลือกธีมที่เบาและเร็วจะช่วยให้เว็บของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมถึงสำคัญ? ธีมที่เบาจะโหลดเร็วกว่า และใช้ทรัพยากรน้อยกว่า

วิธีทำ

  1. เลือกธีมที่มีโค้ดสะอาด และไม่มีฟีเจอร์เยอะเกินจำเป็น
  2. อ่านรีวิวและทดสอบความเร็วของธีมก่อนติดตั้ง
  3. พิจารณาใช้ธีมที่สร้างด้วย Frameworks ที่เน้นความเร็ว เช่น GeneratePress หรือ Astra

8. เพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล (ทำความสะอาดบ้านกันหน่อย)

ฐานข้อมูล WordPress เปรียบเสมือนห้องเก็บของในบ้าน ถ้าเก็บของไม่เป็นระเบียบ มีแต่ของที่ไม่ได้ใช้ ก็จะหาของยากและทำให้บ้านรก เว็บก็เช่นกัน!

ทำไมถึงสำคัญ? ฐานข้อมูลที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพจะทำให้การดึงข้อมูลเร็วขึ้น ส่งผลให้เว็บโหลดเร็วขึ้นด้วย

วิธีทำ

  1. ใช้ปลั๊กอินอย่าง WP-Optimize หรือ Advanced Database Cleaner เพื่อทำความสะอาดฐานข้อมูล
  2. ลบ post revisions, spam comments, และข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกเป็นประจำ
  3. ตั้งเวลาให้ปลั๊กอินทำงานอัตโนมัติเป็นประจำ เช่น ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

9. ลดการใช้งาน JavaScript และ CSS ที่ไม่จำเป็น (ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น)

JavaScript และ CSS ช่วยให้เว็บของเราดูสวยและมีฟังก์ชันการใช้งานที่ดี แต่ถ้ามีมากเกินไปก็อาจทำให้เว็บช้าลงได้

ทำไมถึงสำคัญ? ไฟล์ JavaScript และ CSS ที่ใหญ่หรือมีจำนวนมากจะทำให้เว็บโหลดช้าลง

วิธีทำ

  1. ใช้เครื่องมืออย่าง GTmetrix หรือ PageSpeed Insights เพื่อตรวจสอบว่ามี JavaScript หรือ CSS ที่ไม่จำเป็นหรือไม่
  2. ลบหรือปิดการใช้งาน JavaScript และ CSS ที่ไม่จำเป็น
  3. รวมไฟล์ JavaScript และ CSS เข้าด้วยกันเพื่อลดจำนวนการร้องขอไฟล์ (หลายปลั๊กอินแคชชิ่งมีฟีเจอร์นี้)
  4. ใช้เทคนิค “defer” สำหรับ JavaScript เพื่อให้โหลดหลังจากส่วนอื่นๆ ของหน้าเว็บโหลดเสร็จแล้ว

10. เปิดใช้งาน GZIP Compression (บีบให้แบนแต่ไม่แตก)

GZIP Compression เป็นเทคนิคการบีบอัดข้อมูลก่อนส่งจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ช่วยลดขนาดของข้อมูลที่ต้องส่งผ่านเครือข่าย

ทำไมถึงสำคัญ? ลดปริมาณข้อมูลที่ต้องส่ง = เว็บโหลดเร็วขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีอินเทอร์เน็ตช้า

วิธีทำ

  1. ตรวจสอบว่า Hosting ของคุณเปิดใช้งาน GZIP Compression หรือไม่ (ส่วนใหญ่เปิดใช้งานอยู่แล้ว)
  2. ถ้ายังไม่เปิด ให้เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ในไฟล์ .htaccess
<IfModule mod_deflate.c>
  AddOutputFilterByType DEFLATE text/html text/plain text/xml text/css text/javascript application/javascript
</IfModule>

3. ใช้เครื่องมือออนไลน์อย่าง GIDNetwork GZIP Test เพื่อตรวจสอบว่า GZIP Compression ทำงานหรือไม่

สรุป เว็บเร็ว ชีวิตดี๊ดี

และนี่ก็คือ 10 วิธีที่จะช่วยให้เว็บ WordPress ของคุณเร็วขึ้นแบบเห็นๆ! ลองทำตามทีละขั้นตอน แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

5s 0s ก่อนปรับปรุง หลังปรับปรุง 4.5 วินาที 0.9 วินาที เปรียบเทียบความเร็วเว็บไซต์ WordPress ก่อนและหลังการใช้เทคนิคเพิ่มความเร็ว

อย่าลืมว่าการเพิ่มความเร็วให้เว็บไม่ใช่งานที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ลองตรวจสอบความเร็วเว็บของคุณเป็นประจำ และปรับปรุงตามความจำเป็น

สุดท้ายนี้ ถ้าคุณยังรู้สึกว่าเว็บยังช้าอยู่หลังจากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้ว อย่าลืมพิจารณาเรื่อง WordPress Hosting อีกครั้งนะครับ บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องย้ายบ้านให้เว็บของคุณแล้วก็ได้ 😉

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ไม่นานครับ หลายวิธีสามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที แต่ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจน

ไม่จำเป็นครับ แต่ยิ่งทำหลายวิธี ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดีขึ้น

มีครับ นี่เป็นเพียงวิธีพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้ ยังมีวิธีขั้นสูงอีกมากมายที่เราจะนำเสนอในบทความต่อๆ ไป

อย่าลืมแชร์บทความนี้หากคุณคิดว่ามันมีประโยชน์ และติดตามเราเพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ WordPress และการพัฒนาเว็บไซต์! ย้ายเว็บไปยังโฮสติ้งใหม่ทำได้ง่ายๆ

แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า ขอให้เว็บของคุณเร็วปานสายฟ้าแลบนะครับ! ⚡️

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *